เรื่องแปลกๆ ที่เยอรมัน Culture Shock!
วันนี้อยากจะเขียนเล่าวัฒนธรรมแปลกๆ ของชาวเยอรมัน ไม่แน่ใจว่าจะเหมือนกันทั้งประเทศหรือป่าวนะ แต่เราสันนิษฐานเอาว่าส่วนใหญ่ส่วนมากน่าจะเหมือนกันนะ ส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ตรงที่เจอมากับตัวเองด้วย จึงอยากจะเล่าสู่กันฟังนะจ๊ะ
เรื่องแรก 1 การสั่งขี้มูก ในที่สาธารณะ เป็นอะไรที่ เค้าไม่ได้มีการอายอะไร ใดๆ เกิดขึ้นทั้งนั้น ไม่ว่า หนุ่ม สาว แก่ เด็ก เวลาที่มีน้ำมูกเค้าจะสั่งกันทันที และจะสั่งแบบเอาเป็นเอาตาย เสียงดัง ไม่แคร์คนรอบข้าง แม้กระทั้งในร้านอาหาร ก็ไม่พ้น เรากำลังนั่งกินอาหารอย่างอร่อย จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงโต๊ะข้างๆ สั่งขี้มูกแบบเอาเป็นเอาตายมาก ทำเอาแทบกินไม่ลงเลยทีเดียว คือคนเยอรมันส่วนใหญ่เค้าจะคิดว่า น้ำมูก หรือขี้มูก นั้นเป็นสิ่งน่ารังเกียจ ต้องรีบกำจัดออกไปโดยเร็วที่สุด การที่คนไม่สั่งน้ำมูกออกแต่สูดเข้าออก เวลาหายใจนั้น ถือว่าน่ารังเกียจกว่า ฉะนั้นใครมาอยู่เยอรมันแรกๆ ไม่ต้องตกใจ เค้าเป็นกันแบบนี้
เรื่องที่สอง 2 การอาบน้ำ คือคนเยอรมันส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอาบน้ำบ่อย เหมือนคนไทยนะ อย่างเราอยู่เมืองไทย เช้าอาบ เย็นอาบ แต่คนเยอรมันส่วนใหญ่บางคน 2-3 วันอาบน้ำสระผมครั้งหนึ่ง หรือบางคนอาบน้ำอาทิตย์ละหน เค้าถือว่าการอาบน้ำบ่อยๆ ทำให้ผิวเสียเพราะต้องอาบน้ำอุ่นตลอด และเปลืองเพราะที่นี่ค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่ได้ราคาถูก อีกอย่างที่เยอรมันหน้าหนาวยาวนานมากเกินครึ่งปี ซึ่งอากาศมันก็ทำให้ผิวแห้งอยู่แล้ว ยิ่งอาบน้ำอุ่นบ่อยๆ ยิ่งแห้งหนักเข้าไปอีก แรกๆ เรามาอยู่เยอรมันก็เช้าอาบเย็นอาบอ่ะนะ จนผิวแห้งเป็นขุยเลย พอหลังๆ ปรับตัวได้ อาบวันละหนพอ 555 อย่างโอม่าโอป้า ท่านเป็นผู้สูงอายุนะ ท่านจะอาบน้ำอาทิตย์ละหนเอง โดยการนอนแช่อ่างอาบน้ำ และจากที่เราคุยกับแม่ๆ คนเยอรมัน ที่มีลูกเล็กๆ เหมือนเรา เค้าไม่ค่อยอาบน้ำให้ลูกเหมือนกัน แค่อาทิตย์ละหน บางคนบอกถ้าสกปรกถึงจะอาบน้ำสระผม บางคนแค่เช็ดตัวทำความสะอาด ยิ่งเด็กทารกนะ เค้าไม่ให้อาบน้ำบ่อยด้วยอาทิตย์ละหนพอ หมอเด็กบอกเรามา ฉะนั้นถ้าใครได้มาอยู่เยอรมันก็ปรับตัวให้เข้ากับถิ่นที่อยู่ด้วยนะจ๊ะ อิอิ
เรื่องที่ 3 ต้องมีการนัดหมายล่วงหน้า แม้จะเป็นญาติกันถ้าจะแวะไปหาที่บ้านก็ต้องมีการโทรนัดหมายก่อน อย่างเช่นที่บ้านโอม่านี้เลย เวลาๆ หลานๆ จะมาเยี่ยม เค้าจะโทรศัพท์มาถามก่อนนะ ว่าจะมาวันนี้ๆ ได้มั้ย ส่วนใหญ่เค้าจะมาวันอาทิตย์ตอนบ่ายๆ กัน เป็นเวลาดื่มชา กาแฟ กินขนมเค้กกันยามบ่าย ประมาณบ่ายสามโมงเป็นต้นไป บางทีเค้าก็เอาเค้กมาด้วย คือโอม่าไม่ต้องเตรียมทำเค้กไว้ก็มี เป็นอย่างนี้ประจำ แต่เราเองไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมบ้านใครเค้าหรอก นอกจากเค้าจะเชิญไปเราถึงจะไป หรือถ้าจะไปเราต้องนัดหมายกันล่วงหน้าเสมอ
เรื่องที่ 4 เรื่องความเป็นส่วนตัว ความสำคัญของครอบครัว จากที่เรารู้จักหลายครอบครัวมานะ คือสามีหลังจากทำงานเสร็จแล้วเค้าจะไม่ค่อยมีไปสังสรรค์หลังเลิกงานกับเพื่อนร่วมงานแบบว่านั่งกินดื่มกัน เหมือนเมืองไทยนะ เค้าจะกลับมาบ้านเลย มากินข้าวที่บ้าน พร้อมหน้าตากับครอบครัว พอถึงวันหยุด เวลาว่าง ก็จะออกไปทำกิจกรรมกับครอบครัวใครของมัน ค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับครอบครัว ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทุกครอบครัวที่เป็นแบบนี้ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ที่เราได้รู้จักก็จะประมาณนี้
เรื่องที่ 5 เรื่องการรักษากฎจราจร เป็นอะไรที่เรา ว้าวว!! มากๆ คนเยอรมันส่วนใหญ่จะรักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัดมาก อาจจะไม่ทุกคน แต่ส่วนใหญ่ เช่น ถ้าเจอทางม้าลายมีป้ายบอกว่าให้คนข้าม ถ้ามีคนมายืนเมื่อไหร่ เค้าจะหยุดรถให้คนข้ามทันที หรือ บางทีคนจะข้ามถนนก็ต้องรอสัญญาณไฟเขียวสำหรับคนข้ามก่อนเสมอ แม้บางทีไม่มีรถมาเลยนะ เค้าก็จะไม่เดินข้ามไป เค้าจะรอสัญญาณไฟก่อนเสมอ และตามถนนระหว่างเมืองถ้ามีป้ายจำกัดความเร็วว่าขับได้ 80 รถส่วนใหญ่ก็จะขับกันประมาณนั้น อาจจะเป็นเพราะกฎหมายจราจรที่นี่เข้มงวดมาก จับ ปรับ ยึดใบขับขี่จริงๆ เหมือนที่เคยทำคลิปไว้ เรื่องการทำใบขับขี่ที่เยอรมัน ไม่ไช่ทำกันง่ายๆ นี่ก็เลยเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่เค้ารักษากฎจราจรกันอย่างเข้มงวด แต่อย่างที่เราบอกไม่ใช่ทุกคนจะทำตามกฎ แต่เอาเป็นว่าคนส่วนใหญ่ทำกัน เราเองมาอยู่ที่นี่ เคยข้ามถนนไม่ตรงทางม้าลาย ยังโดนว่าเลยว่าถ้าตำรวจมาเห็นจะโดนปรับอย่างหนัก ตั้งแต่นั้นมาเราก็ทำตามตลอด 555
เรื่องที่ 6 ห้องน้ำไม่มีสายชำระ หรือที่ฉีดก้นนั่นเองค่า 555 เรียกว่าแทบทุกที่ ทุกบ้าน ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ไม่มีสักที่เลยนะ เรียกว่าเราไม่เคยเห็นเลย ขนาดไปอิตาลี ออสเตรีย ก็ไม่เคยเห็นสายชำระเลย เราคิดว่าประเทศแถบยุโรป น่าจะเหมือนกันหมดคือไม่มีสายชำระนั่นเอง วิธีปรับตัวของเราคือ การพกกระดาษชำระแบบเปียกติดตัวไปเสมอไว้ทำความสะอาด เพราะเราคนไทยชินกับการที่ต้องใช้น้ำล้างอ่ะเนอะ จะมาให้ใช้กระดาษชำระแห้งๆ เช็ดมันรู้สึกเหมือนไม่สะอาดยังไงไม่รู้ 555 เอาเป็นว่าถ้าใครจะมาเที่ยวเยอรมันแนะนำให้ติดกระดาษชำระแบบเปียกติดกระเป๋าไว้เลยนะ
เรื่องที่ 7 การเข้าไปห้องซาวน่า คือจะเปลือยกายเข้าไปนั่งอบซาวน่ากันเลยทีเดียว ไม่มีแยกหญิง ชายด้วย จากที่หน้าหนาวปีที่แล้วลูกเราอยากไปเล่นน้ำ แต่จะไปเล่นที่ไหนละ หนาว หิมะตกขนาดนั้นใช่ม่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย มีที่ให้เราไปเล่นน้ำในช่วงหน้าหนาวได้ เค้าเรียกว่า Therme เราก็เลยไปที่ Therme Bad Wörishofen คือที่นี่จะเป็นมีสระว่ายน้ำหลายสระมาก และมีซาวน่าไว้บริการด้วย มีการรักษาอุณหภูมิในน้ำให้อุ่น มีน้ำเกลือให้แช่ด้วย มีสระให้เด็กเล่นน้ำ ที่นี่เป็นที่รู้จักและดังมาก และมีเพียงวันเสาร์วันเดียวที่อนุญาตให้ครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ เข้าไปใช้บริการได้ ส่วนวันธรรมดาต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป และไม่อนุญาตให้เด็กเข้าไปใช้บริการ ใครสนใจก็เสิทอากู๋หารูปดูได้เลยนะ การที่เราได้ไปเลยทำให้รู้ว่าโซนที่ให้บริการห้องซาวน่า เค้าจะเปลือยกายเข้าไปนั่ง รวมกัน ชาย หญิง เรียกว่าไม่มีอะไรใส่เลยนะ ชุดว่ายน้ำ บิกินี ก็ไม่มีใครใส่ เรียกว่าเค้าไม่มีอายกันเลยอะ ส่วนนี้เราเลยไม่ได้เข้าไปเพราะใจไม่ถึงพอ 555
เรื่องที่ 8 ขวดน้ำเปล่าพลาสติค ขวดเบียร์ต่างๆ ส่วนใหญ่จะรีฟันท์ เวลาเราซื้อน้ำดื่มหรือเบียร์จากซุปเปอร์มาร์เก็ตไหน เมื่อดื่มหมดแล้วเราต้องเก็บขวดไว้นะ อย่าทิ้งเลย เราสามารถเอาไปเปลี่ยนเป็นเงินได้นะ คือด้านหน้าทุกๆ ซุปเปอร์มาร์เก็ตจะมีตู้อัตโนมัติให้เราเอาขวดพลาสติคไปคืน เวลาเราเอาขวดเปล่าไปคืนใส่ตู้ที่เค้ารับคืนขวด ก็จะได้เป็นคูปองออกมา ซึ่งเราสามารถเอาไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้นๆ ได้ สรุปคือซื้อที่ไหนก็เอาไปคืนที่นั่น จะได้เป็นสลิปคูปองจำนวนเงินออกมาให้เอาไปใช้ซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตนั่นต่อได้
เรื่องที่ 9 เวลาเปิด ปิด ร้านค้าต่างๆ วันธรรมดาร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ประมาณ 1-2 ทุ่มก็ปิดแล้ว บางร้านวันศุกร์ วันเสาร์เปิดแค่ครึ่งวัน หรือถึงแค่ 6 โมงเย็นก็มี ร้านทำผมบางร้านปิดวันพุธ คลีนิคหมอต่างๆ ก็เปิดแค่วันจันทร์ ถึง ศุกร์ ร้านขายยาบางร้านเปิดถึงวันเสาร์ ไม่มีร้านอะไรที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงเหมือน 7-11 ที่เมืองไทยเลยนะ ปั้มน้ำมันอย่างเมืองที่เราอยู่ 3-4 ทุ่มก็ปิดแล้ว ยกเว้นพวกปั้มน้ำมันที่อยู่บนถนนระหว่างเมืองใหญ่ๆ ทางด่วน อาจะมีเปิด 24 ชั่วโมงนะ เมืองเล็กๆ หรือเมืองใหญ่ๆ เวลาเปิดปิดแทบไม่ต่างกันมาก ที่สำคัญวันอาทิตย์ปิดเหมือนกันหมด จะมีแค่ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ เบียร์การ์เด้น คาสิโน เท่านั้นที่เปิดให้บริการนอกนั้นปิดหมด
เรื่องที่ 10 วันอาทิตย์ ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามตัดหญ้า ห้ามทำอะไรที่เป็นเสียงดัง รบกวนเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมอพาร์ทเม้นท์ ถ้าใครจะมีการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ อาจจะต้องมีการขออนุญาต บอกเพื่อนบ้านก่อน ว่าเวลานี้ กี่โมง ถึงกี่โมงจะมีการใช้เสียงดัง คือเค้าถือว่าวันอาทิตย์ เป็นวันพักผ่อน Ruhe Tag ห้ามมีการส่งเสียงดัง ถ้ามีการส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน เค้าสามารถแจ้งตำรวจได้ ดังนั้น วันอาทิตย์คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทำอะไร พักผ่อนอยู่บ้านเงียบๆ หรือออกไปเดินสวนสาธารณะ ดูเผินๆ เหมือนเมืองร้างยังไงยังงั้น 555
และนี้ก็เป็นเรื่องวัฒนธรรมแปลกๆ ที่เราเจอมาเมื่อได้มาอยู่ที่เยอรมันและอยากจะเขียนเล่าสู่กันฟังให้ทุกคนได้รู้บ้าง เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับใครที่จะต้องมาอยู่เยอรมันจะได้รู้ว่าที่นี่มีอะไรที่เราต้องเจอบ้างนะจ๊ะ