เรื่องของการคลอดและหมอที่ไร้จรรยาบรรณ!
วันนี้อยากจะเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับการคลอด เผื่อว่าใครได้มาอยู่เยอรมันจะได้รู้เป็นข้อมูลไว้ก่อน เขียนจากประสบการณ์ตรงที่ได้เจอมากับตัวเอง จะว่าไปแล้วในความคิดเรานะประเทศเยอรมันถือเป็นประเทศแถบยุโรปที่เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกว่าประเทศอื่นๆ รถหรูๆ แพงๆ เช่น ยี่ห้อ Benz , BMW ก็มาจากประเทศเยอรมัน แต่พอเราได้มาอยู่ที่เยอรมัน ถึงได้รู้ว่าที่เยอรมันส่วนใหญ่จะเน้นให้คลอดเอง เรียกว่าแม่ๆ ที่รู้จักกันสมัยพาลูกไปเข้ากลุ่มเด็กคลานนะ แม่ๆ 5 คน เป็นคลอดเองเสีย 4 คน รวมถึงแม่คนอื่นๆ ที่ได้คุยกันส่วนใหญ่คลอดเองเยอะเลย โดยที่นี่ถ้าต้องคลอดเองส่วนใหญ่จะไม่ได้ใช้หมอช่วยในการทำคลอดแต่เค้าจะมี Hebamme เราขอเรียกว่า นางผดุงครรภ์หรือหมอตำแยละกันนะ เพราะ Hebamme จะมีหน้าที่ให้คำแนะนำต่างๆ เกือบทุกเรื่องที่ผู้หญิงท้องต้องรู้ตั้งแต่ก่อนคลอด ระหว่างคลอด และหลังคลอด รวมถึงการสอนเรื่องการคลอดเอง และ Hebamme ยังมีหน้าที่ทำคลอดให้ด้วย ไม่ต้องถึงมือหมอ คือหมอจะมีหน้าที่ทำคลอดสำหรับคนที่ต้องผ่าคลอดเท่านั้น! เราคิดไม่ถึงว่าสมัยนี้ ยุคนี้ ยังต้องคลอดเองโดยให้หมอตำแยเป็นคนทำคลอดอยู่เหรอ? เป็นเรื่องที่เราแปลกใจมากๆ เพราะตอนเราอยู่เมืองไทย เพื่อนๆ คนรู้จัก รุ่นน้อง รุ่นพี่ ส่วนมากทุกคนจะผ่าคลอดกับหมอแทบทั้งนั้นเลย ยุคนี้ ยุคเทคโนโลยี 4.0 แต่เยอรมันยังสนับสนุนให้แม่ๆ คลอดเองกับหมอตำแยมันเป็นอะไรที่เราคาดไม่ถึงเลย!
เมื่อก่อนตอนเราตั้งท้องเราก็ต้องไปเรียนคอร์สฝึกการคลอดเองกับ Hebamme อาวุโส เป็นหญิงชาวเยอรมันมีอายุประมาณ 50++ น่าจะได้ นางจะเป็นคนให้ข้อมูลทุกอย่างเลย ตั้งแต่เรื่องการฟิตร่างกายยังไงให้พร้อม เพื่อรับมือกับการคลอดเอง การฝึกหายใจระหว่างคลอด ท่าทาง อะไรต่างๆ เกี่ยวกับการคลอดเอง เรียกได้ว่าอะไรที่เกี่ยวกับจะต้องคลอดเอง วิธีการจับตัวเด็ก ฯลฯ นางจะสอนหมด แต่สุดท้ายเราไม่ได้คลอดเองหรอกนะ เพราะลูกไม่กลับหัว และคลอดก่อนกำหนดด้วย เราแอบดีใจมากนะที่ได้ผ่าคลอด 555 เพราะเราไม่อยากคลอดเอง มันเป็นอะไรที่น่ากลัวสำหรับเรามาก ที่เมืองไทยไม่ว่าจะคลอดเองหรือผ่าคลอดหมอต้องเป็นคนทำให้ใช่ไหม? แต่ที่เยอรมันไม่ใช่นะ จะมี Hebamme เป็นคนทำคลอดให้เลย แม่ๆ บางคนอยากคลอดที่บ้าน Hebamme ก็จะไปทำคลอดให้ที่บ้านเลยนะ หรืออยากจะคลอดในน้ำ Hebamme ก็เป็นคนทำคลอดให้ สรุปคือการคลอดเองไม่มีหมอมาอยู่ในการช่วยคลอดเลย
พอใกล้จะถึงอาทิตย์ที่กำหนดคลอดเอง แต่ลูกเราดันไม่กลับหัวลง เราก็ต้องไปหา Hebamme โดยนางจะมีวิธีการที่จะทำให้เด็กกลับหัวลง วิธีแรก คือไปว่ายน้ำในน้ำอุ่น โดยนางจะมาจับตัวเราให้ทำท่าทางต่างๆ และพาเราว่ายน้ำวนไปวนมา ทำอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เสร็จ นางบอกว่าถ้าอีก 3 วันยังไม่กลับหัวลง ต้องลองวิธีฝังเข็ม เอาสิ คือพยามจะให้เราคลอดเองให้ได้ แต่หลังจากนั้น 3 วัน น้ำคร่ำแตก ลูกก็ไม่กลับหัวลง จึงได้ผ่าคลอดสมใจ ด้วยมือหมอ 555 หลังจากคลอดแล้ว Hebamme อีกนั่นแระ จะเป็นคนมาเยี่ยมตามบ้าน มาวัดส่วนสูง ชั่งน้ำหนัก ลูกเรา และให้คำแนะนำต่างๆ เช่น อาบน้ำให้ทารกยังไง ป้อนนมยังไง เปลี่ยนผ้าอ้อมอะไรยังไง เรียกว่านางแนะนำทุกอย่าง อยากรู้อะไรก็ต้องถามนาง มาประมาณ 10 ครั้งได้นะ มันเหมือนเป็นสิ่งที่นางต้องทำอยู่ในหน้าที่ความรับผิดชอบเพื่อจบงานนั่นเอง
มาต่อเรื่องหมอไร้จรรยาบรรณอยากเล่าให้ฟังมากๆ คือแม้แต่ประเทศที่เจริญแล้วอย่างเยอรมันนี ก็มีคนประเภทนี้อยู่ด้วย ไม่ต่างกับเมืองไทยเราเลย คือไม่รู้เพราะนางไม่ชอบคนเอเชียอย่างเรา หรือเพราะเราไม่ซื้อสินค้าที่นางพยามยัดเยียดขายให้ เช่น วิตามิน อาหารเสริมต่างๆ ที่ผู้หญิงท้องควรกิน ดีต่อเด็ก บลาๆๆ แต่ราคาแพงมากกว่าร้านขายยาหลายเท่ามาก ทำให้เราไม่เคยซื้อของนางเลย นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นางใช้วิชามารกับคนไข้ ตั้งแต่ตรวจแบบขอไปที ถามอะไรมากก็ไม่ได้ รีบๆ ตรวจให้เสร็จๆ จนไปถึงเรื่องการขอใบส่งตัวที่ล่าช้าบ่ายเบี่ยง สุดท้ายเรื่องการไม่ออกใบสั่งเครื่องปั้มน้ำนมให้ เคยเขียนเล่าให้ได้อ่านกันแล้วนะเรื่องการไปหาหมอว่าที่นี่อะไรๆ ก็ต้องมี Überweisung ใบส่งตัว , Rezept ใบสั่งยา จากหมอ ถ้าหมอไม่ออกให้คือเราก็ไปต่อไม่ได้ ที่เยอรมันนะ อะไรๆ ก็เอกสารๆๆๆๆ ใบนั่นใบนี่ ยุ่งยาก วุ่นวาย สมฉายาประเทศเจ้าระบบ ระเบียบจริงๆ ลองสังเกตสิ คนเยอรมันส่วนใหญ่จะมีลักษณะนิสัยประมาณนี้แระ ทำอะไรเป็นระบบ
คือเมืองที่เราอยู่มีคลีนิคหมอสูตินารีที่เป็นหมอผู้หญิงเพียงคนเดียว หมอสูตินารีเค้าจะเรียกว่าว Frauarzt ส่วนหมอสูติคนอื่นๆ ในเมืองมีหลายคนเลยแต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เราไม่อยากไปถ่างขาให้หมอผู้ชายดู เราเลยเลือกที่จะไปหาหมอผู้หญิงแทน แรกๆ ก็ดี ต่อมาทุกๆ เดือน เราไม่เคยซื้อของที่หมอพยามขายให้เราเลย เราเริ่มรู้สึกได้ว่าหมอไม่ค่อยพอใจ ไม่ชอบที่จะตรวจท้องเรา และยังมาให้เราวัดเบาหวาน โดยที่ให้เราดื่มน้ำผลไม้ 1 แก้วก่อน แล้วเจาะเลือดเราไปตรวจ เสร็จบอกว่าเราเป็นเบาหวาน ทั้งๆ ที่เราไม่เคยเป็น ครอบครัวพ่อแม่เราก็ไม่มีประวัติใครเคยเป็นโรคเบาหวาน เราคิดเองแบบบ้านๆ เลยนะ คือ ก่อนตรวจเบาหวานแกล้งให้กินน้ำผลไม้ซึ่งมันมีน้ำตาล พอเจาะเลือดตรวจเลยมันก็ทำให้มีน้ำตาลในเลือดเกินมาตรฐานไง ถูกมั้ย? สรุปนางส่งเราไปหาหมอเบาหวาน และเราได้ชุดตรวจเบาหวานมา เราต้องเจาะเลือดที่นิ้วตัวเองหลังกินข้าวทุกวันแล้วเอามาใส่เครื่องตรวจเบาหวานเพื่อดูว่าน้ำตาลเกินไม่เกินทำไปจนยันคลอด สรุปต้องควบคุมอาหารการกิน ทั้งที่ไม่ได้เป็นเบาหวานมาก่อนเลยเอาสิ! บ้าไปละ แต่เราก็ต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก กลัวเป็นอันตรากับลูกในท้องไง ทีนี้พอใกล้ๆ เราจะคลอด ช่วงประมาณเดือนสิงหานี่แระ คลีนิคหมอจะปิดพักร้อนยาว 3 อาทิตย์ ซึ่งมันใกล้กำหนดคลอดเรามาก เราเลยต้องขอใบส่งตัวเพื่อไปคลอดที่โรงพยาบาลอีกเมืองที่เราเลือกไว้ เผื่อกรณีที่เราดันคลอดก่อนหมอจะกลับมา แต่นางก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้สักที จนวันสุดท้ายที่จะปิดคลีนิคไปพักร้อน สามีเราต้องไปที่คลีนิคและไปรอๆๆ ขอใบส่งตัวเอามาจนได้ สรุปเราคลอดช่วงระหว่างนางไปพักร้อนพอดีเลย ดูความไร้จรรยาบรรณของนางนะ
ยังคะ ยังไม่จบนะ ความไร้จรรยาบรรณของนาง หลังจากที่เราคลอดแล้ว 2 อาทิตย์นางกลับมาเปิดคลีนิคตามปกติ เราต้องใช้เครื่องปั้มน้ำนม เพราะเรากลับมาอยู่บ้านแล้ว คือที่เยอรมันดีอย่างนะ ทางบริษัทประกันมีให้เรายืมเครื่องปั้มน้ำนมได้ โดยเราต้องไปรับที่ร้านขายยาและต้องใช้ใบสั่งจากหมอ ซึ่งจะให้เรายืมประมาณ 3-6 เดือนนี้แระ ใช้เสร็จครบกำหนดแล้วก็เอาไปคืนที่ร้านขายยา ช่วงหลังคลอดตอนที่อยู่โรงพยาบาลเราต้องปั้มนม เพราะลูกเราคลอดก่อนกำหนด น้ำหนัก2800 กิโลกรัมเอง เราคิดว่าเกิดจากการที่เราต้องคุมอาหารช่วงท้อง อยากจะกินอะไรก็กลัวน้ำตาลเกินตลอด เลยทำให้ลูกเราตัวเล็ก พอคลอดออกมาตัวเหลืองเลยต้องเข้าตู้อบเกือบอาทิตย์ ทีนี้เราเลยให้นมลูกไม่ได้ เลยต้องปั้มน้ำนมใส่ขวดไปให้พยาบาลในการช่วยป้อน คือที่นี่เค้าจะมีเวลาให้ป้อนนมทุกๆ 4 ชั่วโมง ตอนอยู่โรงพยาบาลเค้าก็มีเครื่องปั้มน้ำนมให้ แต่พอกลับบ้านเราสามารถไปยืมที่ร้านขายยาได้แต่ต้องมีใบสั่งจากหมอไป เราก็โทรไปขอใบสั่งเครื่องปั้มน้ำนม นางไม่ให้คะ พนักงานที่คลีนิคพูดเลยว่าหมอไม่ออกให้ เรางี้อึ้งไปเลย แบบนี้ก็ได้เหรอ! นี่คือความไร้จรรยาบรรณสุดๆ ของการเป็นหมอเลยนะ สรุปเราต้องไปหาหมอ Frauarzt อีกเมืองหนึ่ง ขับรถไปครึ่งชั่วโมง ไปขอให้หมอออกใบสั่งให้ ไปอธิบายให้หมอใหม่ฟัง นางก็งงนะ ว่าทำไมถึงไม่ออกใบสั่งเครื่องปั้มน้ำนมให้เรา มันไม่ถูกต้องเลย ไม่มีเหตุผลเลย และหมอใหม่ก็เลยออกใบสั่งเครื่องปั้มน้ำนมให้เราแทน ซึ่งเราก็ใช้บริการ Frauarzt คนนี้มาจนถึงปัจจุบันนี้เลย และนี่ก็เป็นประสบการณ์ตรงๆ ที่เราเจอมากับตัวเอง เราจึงอยากจะเขียนแชร์ให้ทุกคนได้อ่านนะ ว่าชีวิตที่เยอรมัน มันไม่ได้สวยงาม ดีเริศทุกอย่าง คนดี คนไม่ดี ก็มีอยู่ปะปนกันไปในทุกอาชีพไม่เว้นแม้แต่อาชีพหมอ คิดดูสิ!