การเดินทางด้วยรถไฟในเยอรมันไม่ใช่เรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรามีแอพ DB ในมือถือด้วยแล้ว จะเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ทั้งการซื้อตั๋วออนไลน์ เลือกที่นั่ง การเลือกสถานีต้นทางปลายทาง ตารางการเดินรถ การยกเลิกเที่ยวรถ มีแจ้งให้รู้หมด สำหรับใครที่คิดจะเดินทางด้วยรถไฟ แนะนำให้ดาวน์โหลดติดมือถือไว้เลย
การเดินทางด้วยรถไฟที่เยอรมันค่อนข้างสะดวก แต่สิ่งที่ต้องเตรียมใจก็คือ ความไม่ตรงเวลา ล่าช้าของรถไฟเยอรมันที่คนเยอรมันถือเป็นเรื่องปกติ ยิ่งถ้าเรามีการเปลี่ยนสายเปลี่ยนขบวน ถ้าเที่ยวแรกถึงที่หมายช้า ทำให้เราพลาดเที่ยวรถขบวนต่อไปทันที แต่ก็ไม่ต้องตกใจไป ถ้าเราพลาดแล้ว เราต้องรีบเช็คเที่ยวรถในแอพเลยว่า มีรถเที่ยวต่อไปกี่โมง แล้วเราก็ไปรอขึ้น ไม่ต้องโมโหเพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากรอแค่นั้น หรือบางทีก็มีการยกเลิกเที่ยวไม่วิ่งในวันนั้นๆ เฉยเลยก็มี อันนี้ประสบการณ์ตรงของครูอรเจอมาแล้ว แนะนำก่อนการเดินทางเราต้องเช็คข้อมูลในแอพเสมอ
สถานีรถไฟถ้าเป็นเมืองใหญ่ จะมีป้ายบิลบอร์ดใหญ่ๆ บอกเที่ยวรถ เวลา อย่างชัดเจน มีเคาร์เตอร์ขายตั๋วมีเจ้าหน้าที่คอยให้สอบถาม และตู้อัติโนมัติขายตั๋วด้วย เพื่อให้เราซื้อเองก็มี มีร้านขายอาหาร ขายของต่างๆ มีห้องน้ำให้ใช้บริการ (ส่วนใหญ่จะไม่ฟรี) (ดูรูป) ซึ่งถ้าเราต้องไปใช้สถานีใหญ่ๆ จะไม่หลงเลย แต่ถ้าเป็นสถานีเล็กก็มีป้ายบอกเหมือนกัน แต่ก็อาจจะไม่หรูหราเท่าเมืองใหญ่ และจะมีตู้ขายตั๋วแทบทุกสถานี แต่ถ้าไม่มีตู้ขายตั๋วจะอยู่บนรถไฟเลย (ดูรูป) แต่เราก็สามารถดูเวลาเที่ยวรถต่างๆ ผ่านแอพ DB ได้เหมือนกัน
รถไฟในเยอรมันจะมีชั้น 1 กับ 2 ความแตกต่างคือราคา และความกว้างของที่นั่ง นอกนั้นจะเหมือนกันทุกอย่าง แนะนำสำหรับใครที่อยู่เยอรมันและอยากจะเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟและถ้าเป็นการเดินทางที่ยาวเกิน 5 ชั่วโมงขึ้นไป ยิ่งถ้าวันเดินทางตรงกับวันหยุดยาวหรือวันสุดสัปดาห์ จะมีคนใช้บริการรถไฟเยอะ ควรจะจองที่นั่งพร้อมกับซื้อตั๋วไปเลยเพราะเราจะทำให้มีที่นั่งแน่นอน ไม่อย่างนั้นเราอาจจะต้องยืนหรือนั่งตามพื้นไปตลอดทาง ซึ่งเวลาที่เราซื้อตั๋วรถไฟในแอพของ DB จะมีสัญลักษณ์บอกว่าเที่ยวไหนที่จะมีคนใช้บริการน้อยหรือเยอะ การจองที่นั่งให้จองพร้อมกับตอนซื้อตั๋วไปเลย ถ้ามาซื้อที่นั่งเพิ่มภายหลังก็ทำได้แต่ราคาจะแพงขึ้นเล็กน้อย (เช็คข้อมูลราคาได้จากเว็บหรือในแอพ DB ได้เลย)
เพิ่มเติมเรื่องที่นั่งที่เราจอง เมื่อเราขึ้นรถไฟแล้วให้รีบมองหาที่นั่งที่เราจองทันที เพราะเวลาการจองจะมีอายุแค่ 15 นาทีหลังรถไฟออกเท่านั้น ถ้าเกิน 15 นาทีหลังจากรถไฟออกไปแล้ว ที่นั่งที่จองไว้ก็จะถือว่าสละสิทธิ ตั้งแต่ 1 ก.ค.2024 ได้มีกฏออกมาใหม่ ถ้าเป็นการเดินทางระหว่างเมืองจะมีการบังคับให้มีการจองที่นั่งไปพร้อมกับการซื้อตั๋วเลย ถ้ามาจองที่นั่งทีหลังจะได้ราคาที่แพงกว่านิดนึง ส่วนเรื่องของ Wifi จะมีให้ใช้ฟรี และทุกที่นั่งก็จะมีปลั๊กให้เสียบชาร์ตด้วย แต่ก็ไม่ใช่ทุกสาย
การซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าหลายๆ เดือน จะได้ราคาถูกกว่าที่มาซื้อตั๋วแบบกระชั้นชิด อีกทั้งบางรัฐมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในรัฐนั้นๆ มีตั๋วรายเดือน รายปี มีตั๋วเที่ยวหนึ่งวัน ตั๋วสำหรับคนทำงาน ตั๋วราคาพิเศษสำหรับคนหนุ่มสาว ตั๋วสำหรับคนเดินทางเป็นกลุ่ม ตั๋วสำหรับคนพิการ คนแก่ ตั๋วเดินทางเฉพาะช่วงเวลา หรือแพคเกจตั๋วรถไฟพร้อมโรงแรม ที่พักในราคาพิเศษ เป็นต้น ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ เราสามารถเช็คได้ตลอดทั้งในเว็บหรือแอพของ Deutsche Bahn (DB)
การตรวจตั๋วของเจ้าหน้าที่รถไฟ ถ้าเป็นการเดินทางไกลอาจจะมีการตรวจตั๋วแทบทุกเที่ยว แต่ถ้าเป็นการเดินทางระหว่างเมืองใกล้ๆ อาจจะไม่เจอตรวจตั๋วเลยก็ได้ มีช่วงหนึ่งที่มีตั๋ว 9 ยูโร ในเยอรมัน ครูอรเคยเจอตรวจตั๋วในระหว่างเมืองใกล้ๆ ด้วย จริงๆ อาจจะมีคนนั่งรถไฟฟรีก็มี แต่ถ้าเจอตรวจตั๋วแล้วไม่มีตั๋ว จะเสียค่าปรับเกือบร้อยยูโร คิดว่าอาจจะไม่มีใครกล้าเสี่ยง แนะนำให้ซื้อตั๋วไว้ดีกว่านะ
เรื่องของห้องน้ำในรถไฟ เฉพาะการเดินทางไกลๆ เคยเห็นว่ามีพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำระหว่างการเดินทางด้วย คือถ้าเที่ยวนั้นคนไม่เยอะ ห้องน้ำจะค่อนข้างสะอาดเลยทีเดียว แต่ถ้าเที่ยวไหนที่คนเยอะ สภาพห้องน้ำก็จะไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่
ห้องอาหารบนรถไฟส่วนใหญ่จะให้บริการเฉพาะการวิ่งทางไกลในเยอรมันเองหรือระหว่างประเทศ เช่น จากเยอรมันไปฝรั่ง, อิตาลี และประเทศอื่นๆ ในแถบยุโรป แต่ก็ไม่ได้มีบริการทุกเที่ยว ต้องคอยฟังประกาศหรือเช็คในแอพได้ เมนูอาหารของรถไฟเที่ยวนั้นก็มีให้เช็คในแอพได้เหมือนกัน ราคาไม่ถูก ส่วนความอร่อยก็แล้วแต่เมนูเลย เรียกว่าพอทานประทังความหิวไปได้ (ดูรูป) บางเที่ยวมีโปรพิเศษ เช่นเบียร์กับไส้กรอกราคาพิเศษเป็นต้น
สุสำหรับเด็กที่อายุไม่เกิน 14 ปี ที่เดินทางกับผู้ใหญ่จะฟรี ไม่ต้องเสียค่าตั๋ว แต่จะเป็นการเดินทางในเยอรมันเท่านั้น ส่วนการจองที่นั่งก็คือเสียปกติเหมือนผู้ใหญ่ไม่มีข้อยกเว้น พิเศษอีกอย่างสำหรับเด็กถ้าเรานั่งรถไฟทางไกลระหว่างเมือง เช่น ICE ทาง DB จะมีรถไฟของเล่นแจกให้เด็กด้วย (ดูรูป) แต่เราต้องไปขอได้ที่ห้องอาหารของรถไฟ Bahnrestuarant ไม่ได้มีแจกทั่วไปให้ทุกคน เฉพาะคนที่รู้เท่านั้น และจะมีจำนวนจำกัดมาก ถ้าเที่ยวนั้นคนเยอะ เด็กเยอะ จะหมดเร็วมาก
และนี่ก็เป็นประสบการณ์บางส่วนของครูอรเอง (ข้อมูล ณ พ.ค.2024) เป็นข้อมูลคร่าวๆ ให้สำหรับคนที่คิดจะเดินทางด้วยรถไฟในเยอรมัน หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างนะคะ ยังไงถ้าใครจะเดินทางด้วยรถไฟ ให้เช็คข้อมูลราคาที่อัพเดทในเว็บหรือแอพ DB อีกทีนะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่า 🙂